หุ่นยนต์ส่งของ ในโรงงานอุตสาหกรรมคุ้มค่าการลงทุนอย่างไร?
"หุ่นยนต์ส่งของ" ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมคุ้มค่าการลงทุนอย่างไร?
หุ่นยนต์ส่งของ ประโยชน์และความคุ้มค่าในการลงทุน สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม
บจก.ซันโรโบติกส์ แอนด์ เอไอ เล็งเห็นถึงความคุ้มค่าในการลงทุนของผู้ใช้งานให้ได้รับประโยชน์สูงสุดสำหรับการลงทุนเป็นสำคัญมาโดยตลอด จึงมีการให้บริการหลังการขายในระยะยาวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับผู้ใช้งานว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการลงทุน หุ่นยนต์ส่งของ มีความเเตกต่างจากอุปกรณ์อิเลคทรอนิค หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ตรงที่ต้องมีการดูแลหลังการขายอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนอะไหล่ตามรอบตามระยะ เพื่อให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลือง
คุ้มค่าการลงทุนยังไง
หุ่นยนต์รุ่นต่างๆ จาก บจก.ซันโรโบติกส์ แอนด์ เอไอ มีการรับประกันในประเทศไทยเริ่มต้นให้ที่1ปี เรามีประสบการณ์ในการติดตั้งรวมถึงการให้บริการหลังการขายมากมายการันตรีได้จากลูกค้าชั้นนำมากมายที่เลือกให้เราดูแล มีชิ้นส่วนอะไหล่บริการในประเทศไทย หมดกังวลเรื่องการดูแลและการแก้ปัญหาในระยะยาว ใช้งานได้อย่างสบายใจ ลูกค้าสามารถต่อประกันแบบ ครอบคลุมอะไหล่ทุกชิ้นส่วนได้สูงสุดถึง 5 ปี สำหรับค่าต่อประกันต่อปีจะอยู่เพียง 10-15% ของราคาสินค้า ถือเป็นการให้บริการพิเศษจากเรา นอกจากนั้นเรายังมีบริการ Service ให้ฟรีตลอดระยะเวลาการรับประกัน
หากคำนวนต้นทุนออกมาในการใช้งานระยะยาวที่ 5ปี จะตกเพียง 4,xxx - 15,xxx ต่อเดือนเท่านั้น กับการใช้งานได้ทุกวันแบบไม่ต้องมีวันหยุด จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าการลงทุนและได้รับความสนใจจากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว
ข้อดีข้อเสีย ของ "หุ่นยนต์ส่งของ"
ข้อดีของหุ่นยนต์ส่งของ
1. ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของพนักงาน
2. มีความคล่องตัวสูง รับน้ำหนักได้ทำเวลาได้ดีเดินต่อเนื่องได้
3. เดินได้ประมาณ 30 กิโลเมตร หรือประมาณ 40,000 ก้าวของมนุษย์ /ต่อการชาร์จแบตเตอรี่1ครั้ง
4. สามารถพัฒนาฟังก์ชั่นเพิ่มเติมได้ตามต้องการ (API)
5. บริหารจัดการบุคลากรได้ง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ
6. มีการเก็บ data การเดินในแต่ละวันนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงการจัดการได้
7. ราคาไม่สูง ติดตั้ง บำรุงรักษาง่าย
8. ทำงานได้ทุกวัน
ข้อเสียของหุ่นยนต์ส่งของ
1. ไม่สามารถหยิบของเองได้
2. ในบางรุ่นเหมาะกับสถานที่แบบ indoor เท่านั้น
3. ต้องเชื่อมต่อ Wifi ตลอดเวลาในการสั่งงาน หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ
4. การเขียน API หรือฟังก์ชั่นเพิ่มเติมยังมีราคาสูง
5. อะไหล่สิ้นเปลืองในบางรุ่น ต้องเปลี่ยนยกชุด
"หุ่นยนต์ส่งของ" เหมาะกับงานประเภทใด
หุ่นยนต์ส่งของ ขนาดเล็กประเภทนี้ เหมาะกับงานที่ต้องการขนย้ายลำเลียงซ้ำๆในไลน์ผลิตไปมา ไม่ต้องการใช้ฟังก์ชั่นการทำงานที่ซับซ้อน ช่วยแบ่งเบาภาระของพนักงานในการยกหรือเข็นเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ เน้นในเรื่องความคล่องตัวเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างกับหุ่นยนต์ AGV (Automated Guided Vehicle) ที่มีขนาดใหญ่ โดยหุ่นยนต์ประเภทนี้ใช้พื้นที่การเดินเพียง 60-100cm จะเดินนำสิ่งของไปยังจุดต่างๆที่กำหนดโดยผู้ใช้ สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 30-300kg (แล้วแต่รุ่น) นำส่งชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วฉับไว รวมถึงใช้งานได้ 8-10 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่1ครั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กร